แนะสมเด็จช่วงให้เสียสละ 'ไม่รับตำแหน่ง-ปัญหาจบ'

แนะสมเด็จช่วงให้เสียสละ 'ไม่รับตำแหน่ง-ปัญหาจบ'

           "สมเจตน์" แนะ "สมเด็จช่วง" ประกาศไม่รับตำแหน่ง "สมเด็จพระสังฆราช" จะทำให้ปัญหาความขัดแย้งจบทันที โลกยังจารึกประวัติศาสตร์ว่าเป็นผู้จรรโลงพุทธศาสนา และเป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริงวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 7:07 น. | เดลินิวส์



           พออ่านที่พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ท่านสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" เกี่ยวกับข้อแนะดังกล่าว ทำให้ผมคิดว่าท่านเป็นถึงระดับนายพล มีตำแหน่งรับผิดชอบสูงทำไมท่านคิดคำแนะที่ไร้ความรอบคอบ ไร้ความลุ่มลึก ในการหาทางออก คำแนะที่ประกอบด้วยอารมณ์เช่นนี้ได้อย่างไร? 
           เมื่ออ่านจบสรุปสั้นๆได้ว่า 
๑. ตำแหน่ง "สมเด็จพระสังฆราช" เป็นตำแหน่งของความศรัทธา ซึ่งต้องได้รับการยอมรับจากพุทธศาสนิกชนทุกคน(ขอย้ำว่า ทุกคน)
๒. ถ้ามีใครมาชี้ว่า สมเด็จวัดปากน้ำ มีมลทิน แม้ว่าท่านจะ คิดว่าท่านบริสุทธิ์ก็ตาม ท่านก็ต้องสละ
๓. หากดำเนินการเช่นนี้ ประวัติศาสตร์จะจารึกว่า ท่านเป็น ผู้เสียสละอย่างยิ่งต่อพุทธศาสนา

         ในประเด็นเหล่านี้ก็จะมีข้อคิดต่อไปว่า
๑. โดยหลักเห็นด้วยว่า ผู้เป็นสมเด็จพระสังฆราชต้องได้รับ การยอมรับ แต่ทั้งนี้ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่มีอคติ คือความลำเอียงเพราะรัก ลำเอียงเพราะชัง ลำเอียงเพราะกลัว และลำเอียงเพราะขาดข้อมูล
๒. หากยึดหลักการตามข้อ ๒ ข้างต้น โอกาสที่เราจะไม่มี พระสังฆราช มีได้สูง สมมุติว่าหลวงพ่อสมเด็จท่านสละ แล้วมีการคัดเอาสมเด็จ ก  ขึ้นมา ปรากฏว่า มีนางสาวอีซาร่า ออกมาบอกว่า ท่านมีมลทิน สมเด็จ ก ก็ต้องสละ เอ้า คัดใหม่ เอาสมเด็จ ข ขึ้นมาก็ปรากฏว่ามี นางอีซาร่า มาค้านอีกว่าท่านมีมลทิน ตกลง ชาตินี้เราจะมีโอกาส ได้กราบไหว้ สมเด็จพระสังฆราช ผู้เป็นพระประมุข
แห่งศาสนจักรของเราหรือไม่
๓. หากหลวงพ่อสมเด็จสละจริง แน่ใจหรือว่า ผู้ที่ตั้งธงว่าท่านต้องสละ จะยอมบันทึกว่า ท่านเป็นผู้เสียสละ เพราะหากบันทึกเช่นนั้นก็จะมีคำถามว่า ใครบีบให้หลวงพ่อท่านต้องสละ (แม้วันนี้คนจะยังไม่กล้าเขียนว่าคนสั่งตัวจริงคือใคร แต่สักวันคนจะรู้กันทั้งแผ่นดิน) ดังนั้นเขาก็ต้องเขียนว่า ท่านมีมลทินจึงต้องสละ
          ตกลงเราจะเอาอะไรเป็นบรรทัดฐาน? ในการทำให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องหญ้าปากคอก เป็นเรื่องง่ายแต่เราทำให้มันยาก (หรือพูดตรง ๆ มีผู้ทำให้มันยาก เรื่องจริงมันยิ่งกว่านิยายน้ำเน่าอีกครับผม) ใช่ครับ ผมกำลังจะบอกว่า วันนี้หากทุกคน ยอมรับกติกาทำตามแบบฉบับหรือกฎหมาย ทุกอย่างมันสงบทันที กล่าวคือ ใน พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้ระบุไว้ชัดเจน แทบไม่ต้องตีความใน มาตรา ๗ เกี่ยวกับสมเด็จพระสังฆราชว่า

 “......ในกรณีที่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลง  ให้นายก
รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเสนอนามสมเด็จ
พระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ขึ้นทูลเกล้าฯ  เพื่อ
ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช.....”


          เห็นไหมครับ ว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ ถ้าปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อคณะสงฆ์ทั้งสองนิกาย เห็นพ้องต้องกัน ส่งให้นายกฯ ท่านนายกฯ ก็ทูลเกล้าถวายในหลวง ตอนนั้นก็สุดแท้แต่พระองค์จะว่าอย่างไร แต่นี่พอมีคนและพระรูปเดียว ออกมาค้านก็บอกว่าคณะสงฆ์มีปัญหาแล้ว ตกลงเราจะเอาแบบนี้เป็นบรรทัดฐาน
ใช่หรือไม่?
         ตอบให้ดีนะครับ หากตอบว่าใช่ ต่อไปเมื่อเราจะแต่งตั้งใครเป็นนายกฯ หากมีคนออกมาคัดค้านแค่คนเดียว ก็ไม่สามารถที่จะแต่งตั้งได้แล้ว ใช่ไหมครับ
         ณ วันนี้หากเราต้องการสังคมที่สงบ สังคมที่มีระบบระเบียบแบบแผน เราไม่จำเป็นจะต้องไปสร้างไปทำอะไรใหม่ๆเลย เพียงแค่เรามาทำตามบรรทัดฐานที่มีอยู่ ก็จะทำให้สังคมของเรา น่าอยู่ มีความรัก ความหวังดี ความปรารถนาดีต่อกันแล้วครับ


                                            ขอขอบคุณ : ปรัศนี

แนะสมเด็จช่วงให้เสียสละ 'ไม่รับตำแหน่ง-ปัญหาจบ' แนะสมเด็จช่วงให้เสียสละ 'ไม่รับตำแหน่ง-ปัญหาจบ' Reviewed by Mali_Smile1978 on 02:54 Rating: 5

2 ความคิดเห็น:

  1. สมเด็จท่านไม่เคยออกมาเรียกร้องใดๆเลย ท่านทำหน้าที่ของท่านเป็นปกติ ข้อหาต่างๆที่ยื่นให้ท่านท่ามก็ไม่ได้เป็นคนทำทุกอย่างถูกจัดวางให้ท่านต้องรับสถานการณ์ การที่คุณบุญสนองออกมาเสนอความคิดว่าสมเด็จปฏิเสธการรับตำแหน่งสมเด็จพระสังราช ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่ไปยื่นเงื่อนไขให้ท่าน แนะแนวทางเช่นนี้หรือคือความถูกต้อง คือความยุติธรรมในสังคม. เราเป็นชาวพุทธ มีระเบียบปฏิบัติมาช้านาน คิดให้ดีท่านนายกทำตามระเบียบที่วางไว้มาช้านานไม่ง่ายกว่าหรือ ยุติธรรมแก่ชาวพุทธส่วนใหญ่ด้วย อ่านแล้วยิ่งงงที่ท่านสนช.เสนอเช่นนี้

    ตอบลบ
  2. ท่านก้อไม่ได้บอกว่าท่านอยากได้นะคะ แต่ในความเป็นจริงท่านเหมาะสมในทุกๆด้าน พระทั้งสองนิกายก้อมีความเห็นตรงกัน แล้วทำไมต้องฟังพระอันธพาลองค์เดียวคะ รัฐบาลต่างหากที่ควรจะหยุดยืดเยื้อหาเรื่องใส่ร้ายท่าน แล้วรีบดำเนินการแต่งตั้งท่านเป็นสังฆราชสักทีค่ะ

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.