ยามพระศาสนามีภัย...แพ้-ชนะ อยู่ที่ใด???


ภัยที่กำลังรุกรานพระพุทธศาสนาอยู่ ณ เวลานี้คืออะไร? 

         สิ่งใดหรือเหตุการณ์อะไร? เป็นตัวบ่งชี้ชัดว่า ตอนนี้พระศาสนาของเรากำลังมีภัย....เราในฐานะชาวพุทธและพระพุทธศาสนาอยู่คู่กับเมืองไทยมาตั้งแต่ก่อร่างสร้างชาติมาหลายร้อยปี พวกเราชาวไทยทั้งหลายจะนิ่งนอนใจ ทำเฉย ไม่รับรู้หนาวร้อน ไม่ใช่เรื่องของเรา ศาสนาเป็นเรื่องไกลตัว ???...
         ถ้าชาวพุทธส่วนใหญ่ยังคิดอย่างนี้...มันถูกต้องหรือ? ถ้าเราจะมาสะดุ้งตื่นรู้ตัวในวันที่พระพุทธศาสนาย่ำแย่ สูญสิ้นไปจากแผ่นดินไทย...ถึงตอนนั้นมันสายไปเสียแล้ว...ภัยที่ว่าคืออะไรล่ะ?...
ไม่ว่าจะเรื่องจงใจทำลายสงฆ์ เรื่องพระปลอม เรื่องการแทรกแซงของต่างศาสนา เรื่องการทำลายศรัทธาต่อพระสงฆ์และองค์กรสงฆ์ เป็นต้น 



พระพุทธศาสนาไม่ใช่ไกลตัวแต่เป็นเรื่องใกล้ตัวและอยู่ในตัวของทุกคน? 

         คำสอนหลักใหญ่สำคัญของพระพุทธศาสนา สอนเรื่องการดับทุกข์ ตั้งแต่ระดับโลกียวิสัยจนถึงโลกุตตรวิสัย เป้าหมายเพื่อการหลุดพ้นเข้าสู่บรมสุข คือพระนิพพาน...ทุกข์อยู่ที่ไหน? ตอบว่า อยู่ในตัวเรา คนเราแต่ละคนต้องประสบทุกข์อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เกิดจนตาย ทุกข์เพราะเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกข์จากการพลัดพราก ทุกข์จากสิ่งที่อยากได้แต่ไม่ได้ ไม่อยากได้แต่ได้ อื่นๆ อีกสารพัด...แล้วมนุษย์ทราบได้อย่างไรว่าสิ่งเหล่านี้ เรียกว่าทุกข์? แล้วจะแก้ไขทุกข์เหล่านี้อย่างไร? 

         คำตอบไขข้อข้องใจทั้งหลายเหล่านี้ล้วนอยู่ในคำสอนในพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น....ดังนั้น พระพุทธศาสนาจึงไม่ใช่เป็นเรื่องไกลตัวเราอย่างแน่นอน แต่ธรรมะกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชีวิตมนุษย์ทุกคน...จนเรามองไม่ออก หรือปัญญาเข้าไม่ถึง คิดสรุปเลยเทิดว่า เรื่องธรรมะ เรื่องพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องไกลตัว จึงไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความสำคัญ ลุกลามจนถึงเข้าใจผิดว่า...ฉัน/ ผมเป็นคนดีได้โดยไม่พึ่งหรือนับถือศาสนาก็ได้...ไม่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม...ไม่เชื่อเรื่องโลกนี้โลกหน้า... เป็นต้น...ซึ่งความคิด ความเข้าใจของชาวพุทธเยี่ยงนี้ ถ้าแพร่กระจายออกไปเยอะๆ นับว่าอันตราย ถือว่าเป็นภัยภายในอย่างหนึ่งในพระพุทธศาสนา อาจเรียกได้ว่า วิกฤตศรัทธา นั่นเอง


ในสังคมตอนนี้ เรื่องความเคารพต่อพระน้อยมากหรือแทบจะไม่มี พิจารณาจากหลายๆ เหตุการณ์ เช่น



         เรื่องรถโบราณเก่าๆ โดนยัดคดีว่าเป็นรถหรู เลี่ยงภาษีรถยนต์ สร้างประเด็นเป็นคดี เสื่อมเสีย ยืดเยื้อ สร้างความเข้าใจผิด ปั่นกระแสข่าวลบๆ ร้ายๆ ให้กับพระมหาเถระ เพื่อให้ผู้คนในสังคมเสื่อมและหมดศรัทธา ...จนไม่รู้ว่าคดีจะจบลงเมื่อไหร่?....

         ท่านเจ้าประคุณสมเด็จวัดปากน้ำ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ท่านเป็นถึงระดับพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ มีหน้าที่ผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ทางการปกครองแล้วท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ถือว่าเป็นประมุขสูงสุดแห่งสงฆ์ของพระพุทธศาสนา เถรวาทในประเทศไทย ท่านเป็นพระชรามากแล้ว ทั้งยังได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับพระศาสนาและประเทศชาติมากมาย...



         จู่ๆ มาวันนี้เข้าสู่ยุคทมิฬโดยสัมบูรณ์หรือกระไร? จากรถโบราณที่ได้จากการรับบริจาคของญาติโยม รับโดยบริสุทธิ์ใจ นำไปจอดไว้ในพิพิธภัณฑ์ทิ้งไว้เป็นสมบัติของส่วนรวม เพื่อประโยชน์ด้านประวัติศาสตร์และการศึกษา...กลับถูกใส่ความ กล่าวหายัดคดีอย่างไร้ปราณีและมโนธรรมว่า ครอบครองรถหรู ต้องสอบสวน...ต้องออกหมายเรียก... สื่อเกือบเสื่อมก็พร้อมใจตีประโคมข่าว ซึ่งความจริงประเด็นเรื่องนี้มีนิดเดียว เล็กเท่ารูเข็ม สื่อก็ตีเรื่องใส่ไข่ ใส่อคติ อารมณ์เต็มที่พาดหัวข่าวให้ดูเสียหายใหญ่โต




         นี่เป็นอีกหนึ่งกลเม็ด เคล็ดไม่ลับในการทำลายศรัทธาชาวพุทธต่อพระสงฆ์? "ศรัทธาหมด พุทธสิ้น" อย่างมิต้องสงสัยโดยสร้างกระแสข่าวลบ ร้ายๆ ให้เกิดขึ้นกับพระ กับพระพุทธศาสนาแล้วตีกระแสผ่านสื่อให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา เอื่อมระอา....ทั้งที่ความเป็นจริง เรื่องรถโบราณที่ญาติโยมบริจาคให้ท่านเจ้าประคุณฯ นี้ แค่พระท่านปลงอาบัติ เรื่องก็จบแล้ว แต่ทำไมๆๆๆ ดี๊เอสสสอายยย (Dark Stupid Idiot ) 


หลับหูหลับตาหาเรื่องใส่ความพระไม่จบสิ้น  
คุณมีจุดประสงค์มืดบอดอะไรแอบแฝงในใจหรือเปล่า? 
ทำไมใจร้ายเหลือเกิน? 
ใจคุณทำด้วยอะไร? 
ใจคุณใครสั่งมา?

บ้านเมืองยุคนี้มองเรื่องการรวมสงฆ์เป็นเภทภัยต่อแผ่นดินไปแล้วหรือ?

“สงฆ์-ฆราวาส” ทั่วประเทศนับหมื่น ชุมนุมพุทธมณฑล แสดงสังฆามติ สกัดแผนล้ม มหาเถรฯ(http://www.matichon.co.th/news/38070) 

         ข้าพเจ้าขอถามในฐานะชาวพุทธว่า สงฆ์รวมพลเพื่ออะไร?กิจกรรมที่ทำคืออะไร? กิจกรรม คือพระภิกษุสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกามาร่วมสวดเจริญพุทธมนต์และแสดงพลังของพุทธบริษัท 4....เพราะหลายๆ เหตุการณ์ บ่งชี้ถึงภัยที่กำลังรุกรานพระพุทธศาสนา...
         การรวมครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อสกัดกลุ่มบุคคลที่ออกมากล่าวจาบจ้วงคณะสงฆ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่แผนล้มล้างโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งสังเกตว่ามติมหาเถรสมาคม (มส.) ที่ออกมาล่าสุดถึงคดีของพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย สิ้นสุดตั้งแต่ศาลสงฆ์ชั้นต้นแล้ว ซึ่งเป็นมติโดยชอบ ไม่ได้รับการสนองตอบจากฝ่ายบ้านเมือง ดังนั้น ทางภาคีจึงร่วมกันจัดสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “สกัดแผนล้มการปกครองคณะสงฆ์ไทย” (พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) เลขาธิการ ศพศ., 15/ 2/ 59)



         แต่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองปฏิบัติอย่างไร? ต่อการรวมสงฆ์และชาวพุทธในครั้งนี้ คือเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ปิดทางเข้าออกที่พุทธมณฑล ซ้ำยังนำลวดหนามมากั้นเพื่อไม่ให้ผู้ที่มาร่วมเสวนานำรถยนต์เข้าไปในพุทธมณฑล...นี่หมายความว่าอย่างไร? มองเรื่องการรวมสงฆ์รวมชาวพุทธเป็นเภทภัยต่อแผ่นดินไปแล้วหรือ? นี่มันเมืองพุทธ นะเด้อ 


         โดยพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ย่อมมีสิทธิ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ทำกิจกรรมที่ไม่ได้ก่อความเดือดร้อน ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมของผู้อื่นและสังคมโดยรวม...การคณะสงฆ์รวมกันครั้งนี้ รวมโดยสันติวิธีด้วยการพูดคุยเสวนาและแนวทางแก้ไขของพระพุทธศาสนาด้วยสติและปัญญา โดยไม่มีอาวุธและใช้ความรุนแรงใดๆ....



         ยิ่งกว่านั้น รวมสงฆ์และชาวพุทธเหล่านี้จะเป็นการสร้างพลังบวก เป็นประโยชน์อย่างยิ่งโดยรวมต่อชาติและพุทธศาสนา เพื่อร่วมปกป้องภัยที่มารุกรานทำลายพระพุทธศาสนา เปรียบเหมือนไฟกำลังลุกลามไหม้บ้าน ไหม้วัดอยู่ จะไม่ให้เจ้าของบ้าน หรือพระเณรท่านรีบวิ่งหาน้ำเพื่อดับไฟกระนั้นหรือ? จะให้นั่งรอดูความวอดวายสูญสิ้นทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างนั้นหรือ? 

       
พระรับบริจาคโดยสุจริต โดนยัดคดีว่า “รับของโจร” 
นำเงินบริจาคไปสร้างศาสนสถาน โดนยัดคดีว่า “ฟอกเงิน”  



         เจ้าอาวาสวัดใหญ่แห่งหนึ่ง มีผลงานกิจกรรมงานเผยแผ่มากมาย ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องกว่า 48 ปี สร้างวัดให้เกิดขึ้นอย่างมากมายทั้งในและต่างประเทศ เปลี่ยนจากวัดร้างให้กลายเป็นวัดรุ่ง สร้างคนดีให้เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน ซึ่งส่งผลต่อความสงบ เรียบร้อย และความมั่นคงให้กับสังคม ประเทศชาติมาโดยตลอดต่อเนื่อง 

         ด้วยมโนปณิธานของท่านเจ้าอาวาสและหมู่คณะวัดพระธรรมกายที่ต้องการเผยแผ่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปทั่วโลก ต้องการสร้างวัดให้เป็นวัดที่น่าเข้ามาสั่งสมบุญของสาธุชนทั้งหลาย สร้างคนให้เป็นคนดีที่โลกต้องการ และสร้างพระให้เป็นพระแท้ เพื่อร่วมกันรักษาสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาไปยืนยาวสืบไป...



         วันหนึ่งท่านเจ้าอาวาสท่านรับปัจจัยบริจาคจากสาธุชน ในที่สาธารณ ท่ามกลางสาธุชนนับหมื่น เพื่อนำไปใช้ในการงานพระศาสนา แล้วปัจจัยเหล่านั้นก็มีคณะกรรมการดูแลนำไปสร้างศาสนสถานตามเจตน์ประสงค์ของผู้บริจาคเป็นที่เรียบร้อย...มาวันหนึ่ง (ยุคขัยกัปล์นี้) ท่านเจ้าอาวาสรูปนี้ถูกใส่ความ ตั้งคดีว่า รับของโจร และฟอกเงิน...สังคมไทยพุทธมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? รู้สึกอึ้งและสลดจิต....
         ขอบข่ายกฎหมาย ความยุติธรรมอยู่ไหนเนี๊ยะ? รับเงินบริจาค ใส่ร้ายพระว่ารับของโจร   นำเงินบริจาคไปสร้างศาสนสถาน ใส่ร้ายพระว่า ฟอกเงิน...แล้วพระและวัดทั่วประเทศจะอยู่สงบและทำงานสืบสานพระศาสานาต่อไปได้อย่างไร? เมื่อกฎหมายบ้านเมืองไร้ตาชั่งที่เป็นมาตรฐานสากล?...จนท.บ้านเมืองผู้รักษาความสงบ ผู้รักษากฎหมาย ทำไมเอากฎหมายมาละเลงใส่ความพระผู้บริสุทธิ์เช่นนี้? มันถูกต้องแล้วหรือ? 



         อำนาจและกฎหมายเป็นของกลาง เป็นอนิจจาในโลกนี้ ช่วงที่ท่านสวมหัวโขนมีอำนาจอยู่ในมือ ถ้ามีสติ มโนธรรม ใช้ให้ถูกต้องก็เกิดคุณ แต่ถ้าเผลอสติหลงละเลิง มีอคติ อิงผลประโยชน์ส่วนตนใช้ในทางที่ผิด ไร้ยุติธรรม....สุดท้ายมันจะต้องย้อนมาทำร้ายผู้ใช้ผิดๆ สักวัน ไม่ช้าก็เร็ว ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า ไม่ชาติหน้าก็ชาติต่อๆ ไปนะ...ดี๊เอสสสอายยย (Dark Stupid Idiot )  อย่าเหลิง อย่าหลง....

ล้มพุทธในไทยได้ ก็เหมือนตัดรากแก้วพระพุทธศาสนาของโลก          พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย พวกเรากำลังอยู่ในภาวะสงครามที่ใครบางคนหรือกลุ่มคนบางกลุ่มต้องการทำลายพุทธศาสนาให้หมดสิ้นไปจากเมืองไทย ทำไมมาถึงจุดนี้ไดอย่างไร? อ่านเจาะลึกได้ที่นี่ “ขบวนการล้มพุทธ” http://wakeupbuddhist.blogspot.sg/2016/02/blog-post_32.html        
พวกพาลหน้ามืด ใจบอดได้ทุ่มสรรพกำลังหวังทำลายพระ โค่นรากถอนโคนพุทธศาสนา โดยไม่คำนึงถึงหน้าอินทร์หน้าพรหมไหนทั้งสิ้น....ล้มพุทธในไทยได้ ก็เหมือนตัดรากแก้วพระพุทธศาสนาของโลก...เพราะขณะนี้ประเทศไทยนับเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก...มันน่ากลัวจริงๆๆๆ นะพี่น้อง มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆๆ หรือเล่ามันส์ๆๆ...แล้วพี่น้องผองเพื่อน พวกเราคนพุทธได้ตระหนักรู้กันหรือยัง? แล้วจะทำอย่างไรกันดี? 

สู้ศึกอย่าง “พุทธะ”



         การต่อสู้แบบวิถีพุทธ มีหลักการตามที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ คือการไม่กล่าวร้ายใคร ไม่เบียดเบียนทำร้ายใคร (โอวาทปาฏิโมกข์) แต่ไม่ใช่หมายความว่าจะไม่ให้ทำอะไรเลย ยามใดเมื่อต้องภัยเกิดขึ้นกับตัวหรือพระพุทธศาสนา เราจะคิดแต่นั่งรอรับชะตากรรมฝ่ายเดียว หาใช่ไม่ เราต้องลุกขึ้นมาเป็นฝ่ายรุก ยิ่งในยุคนี้ผู้คนกิเลสหนาปัญญาหยาบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ทรงเลือกมาเกิดและโปรดสัตว์ในยุคมนุษย์ช่วงอายุขัยต่ำกว่า 100 ปี เพราะว่ามนุษย์จะบอกยาก สอนยาก ไม่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ธุลีในดวงตาเยอะและยากที่จะเข้าถึงธรรมอันลึกซึ้งของพระพุทธองค์

         หลวงปู่วัดปากน้ำท่านเคยเทศนาไว้ว่า ในการต่อสู้พระพุทธเจ้าไม่ลดหย่อนให้ผู้ใด แข็งเป็นเพชรทีเดียว สัตว์ใดจะมาเทียบเป็นไม่มี เช่น ปราบพญานันโทปนันทนาคราชผู้แข็งกระด้าง ปราบอาฬวกยักษ์ให้เป็นสาวก 

         การต่อสู้ที่แท้จริงของชาวพุทธเริ่มต้นที่ใจ...ทำใจให้นิ่ง สว่าง สงบแล้วจะสยบทุกสิ่ง หมั่นประกอบสิ่งที่เป็นกุศลกรรมทั้งหลาย เช่น สวดมนต์ นั่งสมาธิเจริญภาวนา หรือสร้างบุญกุศลใส่ตัวตามหลักบุญกิริยาวัตถุ 10 ให้ใจเราผูกอยู่กับพระรัตนตรัยซึ่งจะเป็นการเติมบุญ สร้างพลังงานบวก พลังงานบุญอันทรงอานุภาพให้กับจิตใจและชีวิตเรา....เมื่อเรามีพลังดีมากพอหรือมากกว่าพลังลบ ย่อมส่งผลให้เราสามารถชนะอุปสรรคทั้งหลาย ผ่านพ้นภัยพาลทั้งปวงไปได้ไม่ช้าก็เร็ว


https://goo.gl/I8pdlH

         แม้เทวโลกที่มีการสู้รบกัน ดั่งเรื่องสงครามเทวดาและอสูรในดาวดึงส์ ท้าวสักกะสั่งเทวดาทั้งหลายว่า ถ้าความกลัวหรือความหวาดสะดุ้งหรือความขนพองสยองเกล้าเกิดขึ้นแก่เทวดาที่อยู่ในสงคราม ให้แลดูธงของท้าวสักกะ ความกลัวจะหายไป ถ้ายังไม่หายกลัวให้ดูชายธงของเทวราชปชาบดี เทวราชวรุณ และเทวราชอีสาน ตามลำดับ

         แต่ทำไมเมื่อดูชายธงของท่านทั้งสี่ ความกลัว ความหวาดสะดุ้ง บางทีหายบ้างไม่หายบ้างเพราะอะไร? พระพุทธเจ้าตรัสว่า สกฺโก หิ ภิกขเว ฯ เพราะท้าวสักกะเทวราชผู้เป็นจอมของเทวดามีราคะ โทสะ โมหะ เป็นผู้ยังกลัว ยังหวาด ยังสะดุ้ง ยังหนีไปอยู่ เทวราชอีก 3 ท่านก็เช่นกัน และตรัสว่าภิกษุทั้งหลาย เมื่อไปอยู่ป่า โคนไม้ เรือนว่างป่า พึงระลึกถึงตถาคต ความกลัวจะหายไป หากยังไม่หายให้ระลึกถึงพระธรรม และพระสงฆ์ตามลำดับ 



เมื่อระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ความกลัวหายไป เพราะอะไร?

         ตถาตโต อรหํ ฯ พระพุทธเจ้าเป็นผู้หมดกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้แล้วเองโดยชอบ ปราศจากราคะ โทสะ โมหะ เป็นผู้ไม่กลัว เป็นผู้ไม่สะดุ้ง เป็นผู้ไม่หนี เพราะท่านเป็นผู้หมดภัยแล้ว นี้เป็นเครื่องมั่นใจของพุทธศาสนิกชนนักหนา  ดังนั้น พระรัตนตรัยก็เป็นหลักของพุทธศาสนิกชน ภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ให้ระลึกถึง ทำให้ไม่หวาดกลัว และนำไปสู่ชัยชนะ ความสำเร็จสมหวังทุกประการ (สาระสำคัญ พระธรรมเทศนาพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร), 2541: 127-128 ) ดังนั้น พุทธศาสนิกชนทั้งหลายต้องสู้อย่างถูกกหลักวิชชาอย่างนี้ 

         ภัยศาสนาครั้งนี้เป็นภัยใหญ่หลวงนัก ไม่น้อยกว่าภัยที่เคยรุกรานทำลายพระพุทธศาสนาในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ดังนั้น ต้องอาศัยพลังของพระรัตนตรัย พลังบุญ พลังความดีของแต่ละคนมาผนึกเป็นหนึ่งเดียวกัน เดินออกจากบ้านมารวมพล รวมตัวเข้าวัดให้เยอะๆ ตอนนี้จะอาศัยเพียงการทำความดีที่บ้านของใครของท่านนั้นไม่พอและอาจจะไม่ทันการณ์กับสถานการณ์ภัยที่กำลังคุกคามพุทธศาสนาอยู่ทุกขณะ 



         เราต้องแสดงมวลพลังของพุทธบริษัท 4 พลังศรัทธาต่อพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ สละจัดสรรเวลาออกมาทำกิจกรรมสั่งสมบุญร่วมกันอย่างตลอดต่อเนื่อง อย่างเช่นที่วัดพระธรรมกายได้จัดกิจกรรมให้พุทธศาสนิกชนมาร่วมสร้างบุญด้วยกันอย่างคึกคักเบิกบาน ได้แก่ 

>>> พิธีสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร 2 ล้านจบ หน้าพระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ เพื่อให้ทั้งพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา สาธุชนได้สั่งสมบุญเติมบารมีในฤดูกาลเข้าพรรษา 
>>> กิจกรรมปฏิบัติธรรมเจริญจิตตภาวนาร่วมกันทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน อย่างต่อเนื่อง 
>>> ถวายภัตตาหาร ถวายสังฆทานและร่วมพิธีพิมพ์พระของขวัญ รุ่น “บรรลุธรรม” เพื่อความเป็นสิริมงคล ถวายเป็นพุทธบูชา เป็นต้น



         อีกภัยหนึ่งที่ชัดเจนแต่ชาวพุทธอาจไม่ตระหนักรู้ คือการสร้างกระแสข่าวลบผ่านโลก Social เกี่ยวกับพระสงฆ์ พระพุทธศาสนาออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการทำลายศรัทธาและความเชื่อมั่นต่อพระสงฆ์ ต่อองค์กรปกครองสงฆ์ เราในฐานะชาวพุทธควรตั้งสติให้มาก อย่าฟังข่าวแล้วเชื่อตามโดยไม่ศึกษาหาข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง...

         ปฏิกิริยาที่ชาวพุทธควรกระทำ คือเมื่อได้ยินข่าวไม่ดีที่เกิดขึ้นในพระศาสนา เราควรช่วยกันสืบค้นหาข้อเท็จจริง ถ้าข่าวมั่ว ไม่จริง เราชาวพุทธควรช่วยกันชี้แจง ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่สังคมได้รับรู้ ผ่านถ้อยคำประกอบด้วยจิตเมตตา หรือผ่านอุปกรณ์สื่อสารที่มีอยู่ในมือของทุกท่าน ซึ่งเป็นการสร้างความเข้าใจถูก สร้างสัมมาทิฏฐิให้เกิดขึ้นในสังคม ช่วยกันเป็นทนายแก้ต่างให้กับพระศาสนา เพราะหน้าที่ชาวพุทธก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ของการเกิดมาเป็นมนุษย์และได้มาพบพระพุทธศาสนา นับว่าเป็นผู้ที่มีบุญมาก

         เมื่อพุทธบริษัท 4 มีพลังบุญ บารมีมากพอ ภัยใดๆ ย่อมปราชัยพ่ายแพ้ไปได้อย่างแน่นอน แต่ชัยชนะที่ยิ่งกว่านั้น ที่ทางพุทธศาสนามุ่งความชนะ คือ ชนะที่สุดต้องชนะความชั่วทั้งหมดทั้งสิ้น จนกระทั่งดีที่สุดถึงพระอรหัตตัดกิเลส เป็นสมุจเฉทปหาน นั้นแล


                                                                  โดย มะลิ สไมล์


ขอบคุณข้อมูล: 
- สาระสำคัญพระธรรมเทศนา พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร), 2541.
- https://www.facebook.com/people/นิทัศน์-ประเสริฐเนติกุล/100007266786817

ยามพระศาสนามีภัย...แพ้-ชนะ อยู่ที่ใด??? ยามพระศาสนามีภัย...แพ้-ชนะ อยู่ที่ใด??? Reviewed by Mali_Smile1978 on 07:09 Rating: 5

81 ความคิดเห็น:

  1. เราจะรักษาพระพุทธศาสนาด้วยความดีของเรา ให้พระพุทธศาสนาเจริญเหมือนสมัยพุทธกาล

    ตอบลบ
  2. ธรรมะย่อมชนะอธรรม มารที่พยายามทำพุทธศาสนาต้องพินาศไปโดยเร็วพลัน

    ตอบลบ
  3. อย่ายัดเยียดคดีให้พระสงฆ์

    ตอบลบ
  4. แพ้หรือชนะ อยู่ที่เราช่วยกันจริงหรือป่าว??

    ตอบลบ
  5. พวกเราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย

    ตอบลบ
  6. จะชนะได้ขึ้นอยู่กับชาวพุทธผนึกกำลังกันอย่างพร้อมจะปกป้อง หรือเพิกเฉย

    ตอบลบ
  7. สาธุค่ะ เราจะพร้อมปกป้องพระศาสนาค่ะ

    ตอบลบ
  8. สาธุค่ะ เราจะพร้อมปกป้องพระศาสนาค่ะ

    ตอบลบ
  9. ขอร่วมรักษาพระพุทธศาสนาวชชาธรรมกายด้วยชีวิตค่ะ สาธุ

    ตอบลบ
  10. สาธุ สาธุ สาธุ ครับผม

    ตอบลบ
  11. ประเทศไทยโชคดีนะครับที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติมาตั้งแต่ครั้งเก่าก่อนแต่ตอนนี้พระพุทธศาสนากำลังมีภัยหากพวกเราชาวพุทธทั้งหลายยังนิ่งนอนใจอยู่ ประเทศไทยจะกลายเป็นอดีตเมื่องพุทธเหมือนหลายๆประเทศนะครับ ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนาของเรากันเยอะๆนะครับ อย่าปล่อยให้คนพาลที่ครองเมืองรังเกพระพุทธศาสนาอีกต่อไปเลยนะครับ

    ตอบลบ
  12. "แผนการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาในประเทศไทย" เป็นที่ปรากฏเห็นอย่างเด่นชัด แจ่มแจ้งชัดเจนอย่างนี้แล้ว
    ชาวพุทธแท้จริง ต้องออกมาร่วมแรงร่วมใจกันทำหน้าที่ของพุทธบริษัท 4 ในการปกป้องพระพุทธศาสนากันให้ถึงที่สุด ด้วยการทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา เต็มกำลังศรัทธาเป็นสำคัญ ณ วัดพระธรรมกาย หรือวัดที่ท่านศรัทธา ให้ปรากฏเห็นเป็นรูปธรรม "สามัคคี คือ พลัง" เพราะศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ก่อนที่จะสายเกินกว่าแก้ไข เพราะหากไม่มีพระพุทธศาสนา ก็ไม่ต้องหวังเลยว่าเราและครอบครัวจะอยู่กันอย่างสงบสุขอีกต่อไป !!!

    ตอบลบ
  13. ไม่ระบุชื่อ12 สิงหาคม 2559 เวลา 06:00

    สาธุครับ

    ตอบลบ
  14. สาธุค่ะเรารักพระพุทํศาสนา

    ตอบลบ
  15. สาธุค่ะเรารักพระพุทํศาสนา

    ตอบลบ
  16. เราต้องร่วมกันปกป้องพระศาสนาให้คงอยู่..คู่โลกา
    อนุโมทนาสาธุครับ

    ตอบลบ
  17. เราต้องร่วมกันปกป้องพระศาสนาให้คงอยู่..คู่โลกา
    อนุโมทนาสาธุครับ

    ตอบลบ
  18. เราจะปกป้องพระพุทธศาสนาด้วยชีวิต

    ตอบลบ
  19. ไทยพุทธ เฉยอยู่ใยคะ

    ตอบลบ
  20. ไทยพุทธ เฉยอยู่ใยคะ

    ตอบลบ
  21. เราชาวพุทธสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว

    ตอบลบ
  22. 12สิงหาเป็นวันมหามงคล โจรปล้นพระพุทธศาสนาจงกลับใจ ชาวพุทธจะไม่ถอยแม้เวลาจะยาวนานสักเท่าไร

    ตอบลบ
  23. !!! สู้ แค่ ชนะ !!! หากเราไม่ยอมแพ้..ต้องสู้กับอำนาจมืดที่แอบอยู่ข้างหลังสถานการณ์ จะอีกกี่ยก ชาวพุทธก็ไม่มีวันแพ้ครับ !!!

    ตอบลบ
  24. ปกป้องพระศาสนาเป็นหน้าที่ชาวพุทธ

    ตอบลบ
  25. สาธุค่ะ เราชาวพุทธต้องหมั่นทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา รักสามัคคีผู้นำว่าอย่างไรว่าตามกัน เราจะสวดธัมมจักฯทุกวันให้ได้2ล้านจบ จะเข้าวัดทำบุญร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนาเมื่อมีภัย

    ตอบลบ
  26. พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทยมานานแล้ว อย่าคิดทำลายพระพุทธศาสนา เลิกเถอะ ภัยจะมาถึงตัวท่าน

    ตอบลบ
  27. พระพุทธศาสนา คือ มรดก ล้ำค่า ที่บรรพบุรุษฝากไว้ให้ลูกหลาน
    ดังนั้น เราต้อง หวงเเหน รักษา อย่าให้ใคร มาทำลาย

    ตอบลบ
  28. (ความดี)_คนดีทำง่ายคนชั่วทำยาก_(ความชั่ว)_คนชั่วทำง่ายคนดีทำยาก. อย่าใส่ร้ายพระสงฆ์หรือคิดจะล้มพระพุทธศาสนา...นะ!!

    ตอบลบ
  29. พระพุทธศาสนากำลังมีภัย...มาร่วมใจกันปกป้อง "ต้องสู้ ต้องสู้ จนกว่าชนะ สู้อย่างถูกหลักวิชา ด้วยใจที่หยุดนิ่งและอารมฌ์สบาย"

    ตอบลบ
  30. พุทธบริษัทสี่ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียวกัน กราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  31. เราชาวพุทธต้องชว่ยกันปกปอ้งพระพุทธศาสนา

    ตอบลบ
  32. คิดทำดีเรื่อยไป
    ข้างนอกเคลื่อนไหว
    ข้างในนิ่งใส

    ตอบลบ
  33. เราชาวพุทธต้องชว่ยกันปกปอ้งพระพุทธศาสนา

    ตอบลบ
  34. ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาครับ

    ตอบลบ
  35. สาธุค่ะเราพร้อมปกป้องพระพุทธศาสนา

    ตอบลบ
  36. พุทธบริษัท4 เป็นหนึ่งเดียว
    นำธรรมะสู่สังคมโลก
    ข้างนอกเคลื่อนไหว
    ข้างใน สัมมา อะระหัง

    ตอบลบ
  37. สาธุ้จ้าค่ะ เราพร้อมปกป้องพระพุทธศาสนา
    ธรรมย่อมชนะอธรรม

    ตอบลบ
  38. สาธุ้จ้าค่ะ เราพร้อมปกป้องพระพุทธศาสนา
    ธรรมย่อมชนะอธรรม

    ตอบลบ
  39. เราชาวพุทธต้องช่วยกันปกป้องพระศาสนาให้คงอยู่ตลอดไปค่ะหยุดใส่ร้ายพระผู้บริสุทธิ์ผู้ปฏิบัติดีได้แล้วค่ะ

    ตอบลบ
  40. พระศาสนาอยู่ได้เพราะการให้.....ถ้าทุกๆฝ่ายรู้จักให้ความจริงใจต่อกัน.....ทุกอย่างก็จะไม่ใช่ปัญหา....อย่าเอาความโลภ ความโกรธ ความหลงเป็นที่ตั้ง.... #วันนี้คุณให้โอกาสของตนเองในการปกป้องพระศาสนาหรือยัง#

    ตอบลบ
  41. บางครั้งก้อนึกขอบคุณหมู่มารนะที่ทำให้พวกเราได้มีโอกาสสร้างบุญสร้างบารมีได้มากขึ้น อย่าลืมช่วยกันแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้หมู่มารทั้งหลายให้พวกเค้าเป็นสุขๆกันด้วยนะคะ

    ตอบลบ
  42. ยิ่งพวกคุณไส่ร้ายเท่าไร ก็ยิ่งทำให้คุณถอยหลังมากไปเท่านั้น พวกเรารักความถูกต้องยิ่งกว่าสิ่งใด อย่าทำร้ายมรดกประเพณีที่สืบต่อมาจากบรรพบุรุษไทยเลย

    ตอบลบ
  43. อย่าเป็นชาวพุทธแค่ในทะเบียนบ้าน เราต้องออกมาปกป้องพระพุทธศาสนาได้แล้วค่ะ

    ตอบลบ
  44. ใครจะใหญ่แค่ไหน ถ้ามาทำร้ายทำลายพระพุทธศาสนาล่ะก็ "กูไม่กลัวมึง"

    ตอบลบ
  45. กฏหมายตกอยู่ในมือโจรคนไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา
    พวกสื่อก็เสื้ยมไร้ซึ่งจรรยาบรรณ สื่อนี่ก็คงได้รับผลประโยชน์
    จากพวกที่ถือกฏหมาย เงินสามารถทําให้คนไม่กลัวบาปกรรม
    กล้าทําได้ทุกสิ่ง รัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ให้ความสนับสนุนพระพุทธศาสนา
    มีท่าทีโน้มไปให้ความสําคัญกับศาสนาอิสลาม และมีแผนล้มล้าง
    พระพุทธศาสนา ปกป้องกบฏคนมีข้อหาและพระปลอม นี่เหรอจะคืนความสุข
    ให้ประชาชน #สองมาตรฐาน #ไร้ซึ่งความยุติธรรม
    จะอย่างไรก็ตามเราชาวพุทธจะไม่ยอมให้พวกท่านมาล้มล้างศาสนาพุทธได้

    ตอบลบ
  46. เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่รักษาพระศาสนาค่ะ

    ตอบลบ
  47. ธรรมะต้องชนะอธรรม เเน่นอน สาธุๆๆครับ

    ตอบลบ
  48. ไม่ระบุชื่อ12 สิงหาคม 2559 เวลา 11:31

    เราต้องช่วยกันปกป้องพระพุทธศานา ให้คงอยู่ตราบนานเท่านนาน

    ตอบลบ
  49. "..การต่อสู้ที่แท้จริงของชาวพุทธเริ่มต้นที่ใจ ทำใจให้หยุดนิ่ง สว่าง สงบ แล้วจะสยบทุกสิ่ง.." เราพร้อมจะปกป้องพระพุทธศาสนาด้วยกัน

    ตอบลบ
  50. "..การต่อสู้ที่แท้จริงของชาวพุทธเริ่มต้นที่ใจ ทำใจให้หยุดนิ่ง สว่าง สงบ แล้วจะสยบทุกสิ่ง.." เราพร้อมจะปกป้องพระพุทธศาสนาด้วยกัน

    ตอบลบ
  51. เราต้องสามัคคีกัน จึงจะรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ อย่าเชื่อข่าวโจมตีพระพุทธศาสนาที่เลือกข้าง และมีธงว่า ต้องทำลายวัดนั้นวีดนี้ โดยไม่ได้สนใจ วัดนั้นๆ ผิดจริงหรือไม่

    ตอบลบ
  52. การรักษาคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำคัญที่สุด

    ตอบลบ
  53. การรักษาคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำคัญที่สุด

    ตอบลบ
  54. พุทธศาสนากำลังมีภัยต้องช่วยกันนะคะ

    ตอบลบ
  55. พุทธศาสนากำลังมีภัยต้องช่วยกันนะคะ

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.