ไม่อยากให้เกิดโคลนนิ่ง "เปรี้ยว สวยพิฆาต" เราช่วยกันเพิ่มวัคซีนให้เกิดขึ้นในจิตใจด้วยหลักสากล 5 ข้อ ดีไหม?

ที่มา:http://www.posttoday.com/social/general/498284
ดุสิตโพลเผยคนสะเทือนใจคดีฆ่าหั่นศพมากสุด ชี้สะท้อนสังคมเสื่อมโทรม คนขาดคุณธรรม ศีลธรรม ไร้จิตสำนึก
     สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศเรื่อง "ข่าวอาชญากรรมในสังคมไทย" โดยสำรวจประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 1,149 คน ระหว่างวันที่ 5-10 มิ.ย.60 สรุปผลได้ ดังนี้ 

(ที่มา: http://www.posttoday.com/social/general/498284)

เรื่อง1) 3 อันดับข่าวอาชญากรรมที่ประชาชนคิดว่าสะเทือนใจมากที่สุด

อันดับ 1 คดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม 84.52%


อันดับ 2 คดีฆ่าโบกปูนสามเณรปลื้ม 75.04%

อันดับ 3 คดีฆ่าชิงทรัพย์ฟันคอหญิงวัยชรา 67.57%

2) ประชาชนคิดอย่างไร? กับข่าวอาชญากรรมต่างๆที่มีความโหดเหี้ยมมากขึ้นในทุกวันนี้

อันดับ 1 แสดงถึงความเสื่อมโทรมทางสังคมที่ตกต่ำ 79.65%

อันดับ 2 อยากให้ลงโทษผู้กระทำผิดให้รุนแรงยิ่งขึ้น 76.16%

อันดับ 3 ภาครัฐต้องแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง 65.48%

อันดับ 4 ทุกคนทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำให้สังคมดีขึ้น 64.12%

อันดับ 5 รู้สึกหวาดกลัว ชีวิตมีแต่ความเสี่ยง สังคมอยู่ยากขึ้น 60.26%

3) จากข่าวอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สะท้อนปัญหาสังคมไทยอย่างไรบ้าง

อันดับ 1 คนขาดคุณธรรม ศีลธรรม ไร้จิตสำนึก 83.21%

อันดับ 2 เศรษฐกิจตกต่ำ เป็นหนี้ ไม่มีเงิน 80.27%

อันดับ 3 กฎหมายไม่เข้มงวด สองมาตรฐาน 72.07%

อันดับ 4 ครอบครัวแตกแยก ขาดการอบรมเลี้ยงดูที่ดี 69.83%

อันดับ 5 สื่อนำเสนอข่าวที่รุนแรง เกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบ 57.31

4) ประชาชนมีแนวทางแก้ไขปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นอย่างไร?

อันดับ 1 ทุกคนต้องช่วยกันสอดส่องดูแล ทำให้สังคมน่าอยู่ 75.54%

อันดับ 2 กฎหมายต้องเข้มแข็ง ลงโทษอย่างรุนแรงให้เป็นเยี่ยงอย่าง 73.09%

อันดับ 3 รัฐบาลต้องพัฒนาเศรษฐกิจยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน 67.20%

อันดับ 4 เริ่มจากครอบครัว ให้ความรักความอบอุ่น ดูแลเอาใจใส่ 63.44%

อันดับ 5 มีวิจารณญาณในการติดตามข่าว มีสติ รู้เท่าทัน 56.28

เปรี้ยว สวยพิฆาต "ฆ่าหั่นศพ"

     อีกหนึ่งมุมมองที่อยากสะท้อน คือเรื่องครอบครัว ซึ่งถือเป็นหน่วยเล็กสุดในสังคม (ระดับจุลภาค) ถ้าทำหน่วยเล็กให้ดี มีคุณภาพ จากหน่วยสังคมเล็กๆ ที่ดี มีคุณภาพหลายๆ หน่วยกลายเป็นสังคมใหญ่ (ระดับมหภาค)ที่ดี มีคุณภาพนั่นเอง

     จากชีวิตเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ หนึ่งคน เติบโตมาในครอบครัวหนึ่งในต่างจังหวัด พ่อแม่ต้องดิ้นรนทำมาหากิน จนเติบใหญ่เป็นสาววัยรุ่น ทำงานหาเงิน แล้วพบว่า วันหนึ่งเธอได้ก่อเหตุฆาตกรรมสยองขวัญ “ฆ่าหั่นศพ” มันเป็นไปได้อย่างไร? แล้วเกิดผลกระทบอะไรต่อสังคมโดยรวม?

มุมมองของนายแพทย์ณัฐกร จำปาทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ต่อพฤติกรรมเปรี้ยว 
(ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/280951)

ที่มา: https://goo.gl/JtORvO


- การโพสต์ภาพตุ๊กตาชัคกี้ ที่เป็นรูปลักษณะน่ากลัว สำหรับคนทั่วไป และเป็นสัญลักษณ์แห่งความโหดร้ายรวมถึงการสักลายบนตัวของเปรี้ยวเกือบเต็มแผ่นหลัง ถือว่ามีนัยยะที่น่าสนใจ

- บ่งบอกว่า เปรี้ยว มีภาวะบุคลิกภาพผิดปกติ เข้าข่ายในลักษณะที่เรียกว่า ต่อต้านสังคม ส่วนสาเหตุนั้น คาดว่าน่าจะมาจากการเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก ที่มีปัญหาด้านสัมพันธภาพกับผู้เลี้ยง คนใกล้ชิดรวมถึงในช่วงการเติบโตมีการสร้างสัมพันธภาพที่ผิดปกติ โดยสังเกตได้จากบุคลิก คือความรู้สึกผิดต่อการกระทำจะน้อยกว่าที่ควรเป็นเพราะคนทั่วไปจะรู้ศีลธรรม จริยธรรมขั้นพื้นฐาน สิ่งใดที่ควรหรือไม่กระทำต่อเพื่อนมนุษย์

- สำหรับเปรี้ยวเมื่อได้ก่อความรุนแรงแล้ว พบว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขาดหายไป นอกจากนี้ กลุ่มคนต่อต้านสังคมนี้จะมีพฤติกรรมที่สามารถสังเกตเห็นได้ทั้งการใช้ยาเสพติด โพสต์เรื่องเงินทอง การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวงจรบางอย่างที่อยู่ในข่ายผิดกฎหมาย ที่สำคัญคือการใช้ความรุนแรงทั้งกับตัวเองและผู้อื่น เพื่อแสดงสัญลักษณ์บางอย่าง

- ซึ่งจากปัจจัยเรื่องการเลี้ยงดูที่ตอนเด็กไม่ได้รับการเอาใจใส่ดูแลเท่าที่ควร และอาจจะนำไปสู่พฤติกรรมต่อต้านสังคม ที่นายแพทย์ณัฐกร ระบุนั้น สอดคล้องกับคำบอกเล่าของแม่แท้ ๆ ของเปรี้ยว คือ นาง สาคร ภาษี อายุ 62 ปี 

ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/280951
ประวัติเปรี้ยวโดยสังเขป
(ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/280951)

- เปรี้ยวไม่ได้อยู่กับครอบครัวตั้งแต่เด็ก แต่ต้องไปอยู่กับย่าตั้งแต่แต่คลอดออกมา เพราะครอบครัวยากจน แม่มีลูกมาก่อนหน้านี้ 4 คน และมีสามีมาแล้ว 2 คน โดยพ่อของเปรี้ยวเป็นสามีคนที่ 3

- พอคลอดเปรี้ยวแม่ก็ต้องทำงานเลี้ยงดูครอบครัวและเลี้ยงดูพี่ ๆ ของเปรี้ยว โดยรับจ้างทำงานสารพัด ทำให้ไม่มีเวลาเลี้ยงดูเปรี้ยวได้ ทำให้ย่าของเปรี้ยว ซึ่งคือแม่ของพ่อเอาเปรี้ยวไปเลี้ยงดูแทน

- ส่วนการศึกษา “เปรี้ยว” เรียนจบเพียงระดับชั้นประถมศึกษาที่ 6 ในโรงเรียนประจำหมู่บ้านเท่านั้น และพออายุ 15 ปีเธอได้แต่งงานกับหนุ่มในหมู่บ้านและมีลูกด้วยกันปัจจุบันลูกอายุ 8 ขวบแล้ว

- จากนั้นพอเปรี้ยวแต่งงาน ก็ได้เข้ามาทำงานหาเลี้ยงครอบครัวในร้านคาราโอเกะกลางเมืองขอนแก่น โดยชีวิตของเธอก็อยู่กับวังวนการทำงาน หาเงิน และหาเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะตอนเด็กครอบครัวเธอยากจนมาก ทำให้มองว่าเงินคือสิ่งสำคัญในชีวิต

- และทุกครั้งเวลาเธอกลับไปบ้านให้เงินกับแม่ เปรี้ยวจะย้ำเสมอว่า “การหาเงินมาได้แต่ละพันมันยากมาก อยากให้แม่ใช้เงินอย่างประหยัด” และเพราะการอยากได้เงินจำนวนมากนี่เอง ที่ทำให้เธออาจจะเข้าไปพัวพันกับวงการยาเสพติด เป็นทั้งผู้ขาย ผู้เสพ จนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้น

ผลกระทบต่อสังคมที่เห็นชัดๆ

ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/280951

- จำนวนจนท.ตำรวจนับร้อยนายทำงานอย่างหนัก เพื่อติดตามการจับกุม โดยประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อตามจับตัวผู้ต้องหา “เปรี้ยวและแก๊ง”มาดำเนินคดีให้ได้
...รายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ร่วมจับกุมมีทั้ง นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตำรวจ ทหาร และข้าราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจำนวน 23 คน เเละนายตำรวจตั้งแต่ระดับสัญญาบัตรจนถึงชั้นประทวนอีกมากกว่า 90 คน ในหลากหลายหน่วยงาน ตั้งเเต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงราย , เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานชายแดน ไทย-พม่า , เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรแม่สาย , เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 4 ภาค 5 , เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม , เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม, เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส...(อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/social/hot/497751)

- จำนวนวันที่จนท.ตำรวจต้องดำเนินการตามกระบวนการสืบสวน สอบสวน ลงพื้นที่ต่างๆ


⁃ จำนวนงบประมาณของชาติ ที่ได้จากภาษีของประชาชนที่ต้องสูญเสียไปไม่น้อย

     ลำดับเหตุการณ์เหล่านี้เป็นการทุ่มเทในการแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่ แต่เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ดังสุภาษิตที่ว่า วัวหายแล้วค่อยมาล้อมคอก แต่จะทำยังงัยได้เมื่อปัญหาเกิดก็ต้องแก้กันไป ไม่มีทางเลือกอื่น

ที่มา: https://goo.gl/gsCis1

     กรณีปัญหาเพียง 1 ปัญหาแต่ส่งผลกระทบสังคมแบบตาข่าย โยงใยกระทบกันไปหมดเป็นองคาพยพ แล้วปัญหาสังคมมีมากมายนับไม่ถ้วนทั้งที่เกิดขึ้นแล้ว ที่กำลังแก้ไข และที่จะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ ในอนาคต ดูจากข่าวประจำวันบนหน้าสื่อออนไลน์ ทีวี หนังสือพิมพ์ มีข่าวอาชญากรรม ทั้งเรื่องการฆ่า ทำร้ายร่างกาย ยาเสพติด คอรัปชั่น สารพัดข่าวร้ายๆ ไม่ว่างเว้นสักวันที่จะมีให้เห็นให้อ่านกัน

     ถึงวันนี้ผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่มีอำนาจในบ้านเมืองน่าจะต้องจริงจังถกเถียงเรื่องนี้อย่างจริงจัง ว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ต้นเหตุได้อย่างไร??? (สอดคล้องกับผลโพล ที่ปชช.ต้องการให้ภาครัฐต้องแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง 65.48%)

ที่มา: https://goo.gl/gsCis1

     พ่อแม่มีคุณภาพ ครอบครัวอบอุ่น ย่อมจะได้ลูกที่เติบโตมามีคุณภาพ กฎตรรกศาสตร์ง่ายๆ มีเหตุและผลชัดเจน (สอดคล้องกับผลโพล...อันดับ 3 รัฐบาลต้องพัฒนาเศรษฐกิจยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน 67.20% ,อันดับ 4 เริ่มจากครอบครัว ให้ความรักความอบอุ่น ดูแลเอาใจใส่ 63.44%)

     วิธีการหนึ่งที่น่าสนใจ ผู้เขียนมองว่า ง่ายต่อการนำไปใช้และการปฏิบัติได้ทุกเพศ ทุกวัย  คือการส่งเสริมให้คนมีศีล 5 นี่ไม่ใช่แค่เรื่องมุมมองของศาสนา แต่จะเป็นการสร้างมาตรฐานคนดีขั้นพื้นฐาน ใช้เป็นหลักชี้วัดความเป็นปกติของมนุษย์ผู้มีจิตใจสูง 

     หลักการง่ายๆ นี้ที่ไม่เคยล่าสมัยและเสื่อมไปตามกาลเวลา หลักสากล 5 คือ ไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน, ไม่ลักทรัพย์,ไม่ล่วงละเมิดคู่ครองของคนอื่น,ไม่โกหกและไม่เสพสุรา ยาเสพติด หลักนี้จะสามารถสร้างศีลธรรม จริยธรรมให้เกิดขึ้นกับคนในชาติ 
ที่มา: https://goo.gl/gsCis1

     ผู้เขียนมั่นใจถ้ารัฐบาลจริงจัง จริงใจการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุด้วยหลักสากล 5 ข้อนี้ ปัญหาสังคมจะค่อยๆ ลดลง คนในชาติจะมีจิตใจที่ดี มีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจให้ดีขึ้นตาม ดังคำกล่าวที่ว่า เศรษฐกิจย่อมคู่กับจิตใจ
ไม่อยากให้เกิดโคลนนิ่ง "เปรี้ยว สวยพิฆาต" เราช่วยกันเพิ่มวัคซีนให้เกิดขึ้นในจิตใจด้วยหลักสากล 5 ข้อ ดีไหม? ไม่อยากให้เกิดโคลนนิ่ง "เปรี้ยว สวยพิฆาต" เราช่วยกันเพิ่มวัคซีนให้เกิดขึ้นในจิตใจด้วยหลักสากล 5 ข้อ ดีไหม? Reviewed by Mali_Smile1978 on 05:07 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.