ภาพสองมาตรฐานในสังคม นับวันยิ่งเด่นชัด ยิ่งเห็นความอยุติธรรมกับการบังคับใช้กฎหมายของจนท.รัฐต่อปชช.?
ภาพแห่งความแตกต่าง ภาพแห่งสองมาตรฐานในสังคมเดินคู่ขนาน นับวันยิ่งเด่นชัด ยิ่งเห็นความอยุติธรรมกับการบังคับใช้กฎหมายของจนท.รัฐต่อปชช.?
ในขณะที่ กรณีที่ 2 >>> พระปลัดเสกสรรค์ อัตตทโม พระรูปหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นพระแท้ หัวใจเพชร ยอมตายแต่ไม่ยอมแพ้ต่ออยุติธรรมที่กำลังรังแกพระพุทธศาสนา เป็นการย่ำยีหัวใจชาวพุทธ เพราะพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาอยู่คู่ชาติไทยมายาวนานหลายร้อยปี
แต่ท่านกลับโดนออกหมายเรียกในข้อกล่าวหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบ้ติตามคำสั่ง คสช.” ท่านได้เดินทางเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก หลังจากนั้นศาลให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ เงินสด 2 แสนบาทโดยมีเงื่อนไขห้ามเข้าพื้นที่ควบคุม วัดพระธรรมกาย ประกาศใช้ ม.44 และห้ามให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเชิงยุงยงปลุกปั่น (อ่านเพิ่มเติมที่ Now 26.TV https://goo.gl/GOieAJ)
และ กรณีที่ 3 >>> พระอีกรูป พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ท่านทำหน้าที่พูดความจริง เอาเหตุการณ์จริง จากที่รัฐบาลใช้มาตรการ ม. 44 มาคุมพื้นที่ ปิดล้อมวัดพระธรรมกาย มาบอกเล่าความเป็นอยู่ของพระ เณร ญาติโยมสาธุชนที่อยู่ในวัด และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงที่วัดโดนปิดล้อม เพื่อให้ลูกศิษย์ ชาวพุทธทั่วประเทศและทั่วโลกได้รับทราบเท่านั้น
แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับพระสนิทวงศ์ มีความผิดตามมาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ กระทั่งศาลอนุมัติหมายจับ
พระสงฆ์ทำหน้าที่ถูกต้องและถูกกาลต่อสู้กับความอยุติธรรม
ไม่ได้ไปว่าร้าย ไม่ได้ทำร้ายเบียดเบียนและฆ่าใคร
>>> พระท่านกำลังทำหน้าที่ช่วยปลุกปลอบกำลังใจชาวพุทธให้ตื่นร่วมปกป้องพระพุทธศาสนา มาสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา ให้จิตใจตังมั่นในคุณงามความดี ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรค สู้ด้วยความดี ชนะด้วยความดี
>>> ปลุกให้คนตื่นจากอวิชชา ความไม่รู้ ให้ได้รู้ว่าสถานการณ์จริงที่พระพุทธศาสนากำลังโดนย่ำยีอย่างไร้ความปราณีจากกลุ่มคนบางคนที่อ้างตัวว่า พุทธแท้ คนดี
กรณีที่ 1 >>> ทนายงง!คดีไขควงมรณะ ไร้วงเงินประกันตัวโจ๋18คน
ทนายคู่ใจ งง!ชาวบ้านไม่รู้หลักทรัพย์ที่ใช้ประกันตัว 18โจ๋โหดฆ่า "น้องปอนด์" ขณะที่ตำรวจปิดเงียบปัดไม่ยอมบอก เชื่อปล่อยตัวโดยไม่มีหลักทรัพย์ประกันแน่ จี้สื่อฯช่วยถาม ผกก.สภ.ชะอำ ให้ชัด (อัง.7 มี.ค. 2560 เวลา 15.50 น. อ่านต่อที่ :https://www.dailynews.co.th/crime/560201)
ในขณะที่ กรณีที่ 2 >>> พระปลัดเสกสรรค์ อัตตทโม พระรูปหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นพระแท้ หัวใจเพชร ยอมตายแต่ไม่ยอมแพ้ต่ออยุติธรรมที่กำลังรังแกพระพุทธศาสนา เป็นการย่ำยีหัวใจชาวพุทธ เพราะพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาอยู่คู่ชาติไทยมายาวนานหลายร้อยปี
แต่ท่านกลับโดนออกหมายเรียกในข้อกล่าวหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบ้ติตามคำสั่ง คสช.” ท่านได้เดินทางเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก หลังจากนั้นศาลให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ เงินสด 2 แสนบาทโดยมีเงื่อนไขห้ามเข้าพื้นที่ควบคุม วัดพระธรรมกาย ประกาศใช้ ม.44 และห้ามให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเชิงยุงยงปลุกปั่น (อ่านเพิ่มเติมที่ Now 26.TV https://goo.gl/GOieAJ)
และ กรณีที่ 3 >>> พระอีกรูป พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ท่านทำหน้าที่พูดความจริง เอาเหตุการณ์จริง จากที่รัฐบาลใช้มาตรการ ม. 44 มาคุมพื้นที่ ปิดล้อมวัดพระธรรมกาย มาบอกเล่าความเป็นอยู่ของพระ เณร ญาติโยมสาธุชนที่อยู่ในวัด และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงที่วัดโดนปิดล้อม เพื่อให้ลูกศิษย์ ชาวพุทธทั่วประเทศและทั่วโลกได้รับทราบเท่านั้น
พระสงฆ์ทำหน้าที่ถูกต้องและถูกกาลต่อสู้กับความอยุติธรรม
ไม่ได้ไปว่าร้าย ไม่ได้ทำร้ายเบียดเบียนและฆ่าใคร
>>> พระท่านกำลังทำหน้าที่ช่วยปลุกปลอบกำลังใจชาวพุทธให้ตื่นร่วมปกป้องพระพุทธศาสนา มาสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา ให้จิตใจตังมั่นในคุณงามความดี ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรค สู้ด้วยความดี ชนะด้วยความดี
>>> ปลุกให้คนตื่นจากอวิชชา ความไม่รู้ ให้ได้รู้ว่าสถานการณ์จริงที่พระพุทธศาสนากำลังโดนย่ำยีอย่างไร้ความปราณีจากกลุ่มคนบางคนที่อ้างตัวว่า พุทธแท้ คนดี
ภาพสองมาตรฐานในสังคม นับวันยิ่งเด่นชัด ยิ่งเห็นความอยุติธรรมกับการบังคับใช้กฎหมายของจนท.รัฐต่อปชช.?
Reviewed by Mali_Smile1978
on
05:30
Rating:
Reviewed by Mali_Smile1978
on
05:30
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: