เคลียร์ชัดๆ กรณีที่รัฐใช้กฎหมาย ม.116 กับพระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวังโส โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี


กรณีที่รัฐใช้กฎหมาย ม.116 กับพระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวังโส

>>> นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "คมข่าว" ถึงกรณีที่รัฐใช้กฎหมาย ม.116 กับพระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย โดยอ้างเหตุผลเรื่องการปลุกระดม บิดเบือนข้อมูลกระทบต่อความมั่นคง 

>>> ซึ่งนายวิญญัติระบุว่า ดูแล้วเป็นเรื่องตลก แสดงถึงภูมิความรู้และอารมณ์เอาแต่ใจของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากมาตรา 116 มีองค์ประกอบค่อนข้างชัดเจน ต้องมองว่าพฤติการณ์ของพระสนิทวงศ์ ท่านอยู่ภายในช่วงที่วัดถูกควบคุมเป็นพื้นที่พิเศษ สิ่งที่มันเกิดขึ้นภายในบริเวณวัดก็ดี รอบบริเวณวัดก็ดี รวมทั้งข้อเท็จจริงที่เกิดจากความลำบาก และอุปสรรคต่างๆ จนกระทั่งมีเหตุการณ์การเสียชีวิต หรือการถูกตัดน้ำตัดไฟ หรือการกระทำต่างๆ ที่เป็นลักษณะของการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน

>>> เมื่อท่านมาให้ข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน รวมทั้งสื่อมวลชนด้วย การให้ข้อเท็จจริงดังกล่าวจะมีการแสดงความคิดเห็นและข้อมูลต่างๆ ซึ่งจากที่รับฟังเห็นว่า ท่านให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ตรงไปตรงมา พูดง่ายๆก็คือเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตนั่นเอง เพราะฉะนั้น การให้ข้อมูลลักษณะอย่างนี้เป็นสิ่งที่ดีต่อสังคมด้วยซ้ำไป ว่า สิ่งที่อยู่ภายใน หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น พระถูกกระทำอย่างไร เจ้าหน้าที่กระทำอย่างไรบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติที่ควรจะเกิดขึ้น

" ถ้ามองว่าพระสนิทวงศ์ผิด ม.116 ผมมองว่า DSI มากกว่าที่จะผิด ม.116  
>>> เพราะเรื่องนี้ DSI นอกจากจะแถลงรายวันแล้ว บางข้อมูลเป็นข้อมูลที่ขัดแย้งต่อความเป็นจริง บางข้อมูลเป็นข้อมูลที่ชวนให้ประชาชนเกิดความรังเกียจ หรือเข้าใจผิด สร้างความขัดแย้งเสียเอง ถ้าจะมองว่าพระผิด ม.116 DSI ก็ผิดถ้าเป็นอย่างนี้ " นายวิญญัติกล่าว
>>> ส่วนองค์ประกอบความผิดตาม ม.116 นั้น นายวิญญัติระบุว่า 
- ต้องเป็นการแสดงความเห็นที่ไม่ได้อยู่ในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ และไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายบ้านเมือง 
- ส่วน (2) ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือสร้างความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดเกิดความไม่สงบ 
- และ (3) เป็นเรื่องของการล้มล้างกฎหมาย หรือทำให้ประชาชนละเมิดต่อกฎหมาย
ซึ่งตรงนี้โดยเฉพาะ (2) ถ้าจะมองว่าเป็นการทำให้กระด้างกระเดื่อง หรือก่อให้เกิดความไม่สงบ ถามว่า วัดเขาอยู่กันปกติ จนพวกท่านมาล้อมปราบเขาและใช้อำนาจพิเศษแบบนั้น ใครเป็นคนก่อให้เกิดความไม่สงบกันแน่ ซึ่งการก่อความไม่สงบ ท่านมองว่าจะจับพระรูปหนึ่งซึ่งเป็นผู้ต้องหา แต่คดีดังกล่าวเป็นการจับผู้ต้องสงสัยเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการทางคดีอาญา ไม่ใช่จับผู้กระทำความผิด 
- สิ่งที่ DSI แถลง สิ่งที่โฆษกต่างๆ ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐแถลงนั้น กำลังสร้างทัศนคติ และข้อเท็จจริงให้มองว่า พระธัมมชโย และพระต่างๆ รวมทั้งลูกศิษย์ สามเณร ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมเป็นผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาด และเป็นทัศนคติที่เลวร้ายมากจากเจ้าหน้าที่รัฐ
ในส่วนของการใช้ ม.116 ยุติบทบาทของพระสนิทวงศ์นั้นเป็นอย่างไร?

>>> ในส่วนของการใช้ ม.116 ยุติบทบาทของพระสนิทวงศ์นั้น นายวิญญัติมองว่า คนไทย และอำนาจรัฐไทยมันก็เป็นแบบนี้ค่อนข้างชัดเจนในหลายปีที่ผ่านมา 
นอกจากรับฟังไม่ได้ ทนต่อการตอบโต้ไม่ได้ หรือรับความจริงไม่ได้แล้ว ก็ต้องเอากฎหมายมาใช้แบบข้างๆคูๆ หรือใช้อำนาจแบบตามอำเภอใจ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นท่านต้องใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ความยุติธรรมที่ท่านกำลังทำอยู่นั้นมันส่อให้เห็นว่าท่านกำลังปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 
>>> การที่วัดจะแถลงตอบโต้ หรือแถลงข้อเท็จจริงให้สาธารณชนรับทราบเพื่อต้องการไม่ให้ฝ่ายหนึ่งให้ข่าว หรือสร้างปฏิบัติการข่าวสาร(IO) ฝ่ายเดียว ที่ผ่านมาสังคมแตกแยกไม่ปรองดอง ขัดแย้งกันก็เพราะเรื่องให้ข่าวฝ่ายเดียว ปรักปรำให้ร้ายกัน

ส่วนเรื่องความพยายามในการจะโยงคนเสื้อแดงกับกรณีวัดพระธรรมกายนั้นอย่างไร?

>>> นายวิญญัติระบุว่า ก็เป็นเรื่องสติปัญญาของฝ่ายรัฐที่คิดได้แค่นั้น ก็คงมองว่าถ้าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไปโยงกับเรื่องเสื้อแดง หรือกลุ่มการเมือง ก็จะทำให้ฝ่ายที่กำลังถูกพาดพิงหรือฝ่ายที่ถูกกล่าวหาอยู่นั้นหมดความชอบธรรมลงไป 



เรื่องของการออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 5/2560 บังคับใช้กับวัดพระธรรมกาย
>>> นายวิญญัติกล่าวว่า ที่จริงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 5/2560 ไม่ควรจะออกมาด้วยเหตุผลทางกฎหมายและทางวิชาการ ว่าคำสั่งนี้ เป็นคำสั่งที่มีลักษณะก้าวล่วงอำนาจศาลยุติธรรม เป็นการขยายขอบเขตอำนาจรัฐในเรื่องที่ไม่จำเป็น และขัดเจตนารมณ์ของมาตรา 44 ชัดเจน
 >>> ศาลให้อำนาจโดยการออกหมายค้น โดยระบุชัดเจนในหมายค้นว่า จะค้นทั้งวันทั้งคืนก็ได้ตั้งแต่วันที่ 16 - 28 กุมภาพันธ์ 10 กว่าวันที่ค้นนี่ยังไม่พอหรือ แล้วช่วงที่ค้น 3-4 วันแรก ไปค้นทุกพื้นที่แล้ว ทำการค้นเสร็จไม่พบอะไร ไม่พบผู้ถูกออกหมายจับ โดยกฎหมายการค้นถือว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และสำเร็จลงไปแล้วด้วย 

>>> แต่เมื่อค้นแล้วยังใช้มาตรา 44 ทั้งๆ ที่การขอออกหมายค้นในครั้งที่สอง ไม่ทราบว่าออกได้หรือไม่ ซึ่งคิดว่าศาลคงทบทวนว่าการออกหมายค้นครั้งที่ผ่านมาสร้างความลำบาก สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยรวม ไม่ใช่อำนวยความสะดวกให้แก่ฝ่ายรัฐฝ่ายเดียว 

>>> ฉะนั้น การที่ผู้มีอำนาจจะใช้มาตรา 44 มาใช้โดยไม่ต้องขอหมายค้น ก่อนหน้านั้นท่านไปขอทำไม เพราะต้องการเข้าไปค้นซึ่งต้องไปขออำนาจศาลซึ่งเป็นฝ่ายตุลาการ แต่พออำนาจศาลดำเนินการไปแล้ว แต่ไม่ได้ดั่งใจหรือตามวัตถุประสงค์ ไม่สามารถเข้าควบคุมพื้นที่ หรือจัดการทรัพย์สินอะไรได้ ดังนั้นสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลในการใช้มาตรา 44 จึงไม่มีเหตุสมควร จะยกเหตุผลอะไรมาก็ฟังไม่ขึ้น

ผบ.ทบ. ออกมากล่าวว่า "ขอให้พระธัมมชโยออกมามอบตัวคนเดียวก็จบ..."?

>>> ส่วนกรณีที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ออกมากล่าวว่า "ขอให้พระธัมมชโยออกมามอบตัวคนเดียวก็จบ ประชาชน 3-4 พันกว่าคน ไม่ต้องมาลำบาก ทหารไม่ต้องไปยืนตากแดด ทหารอยากหันหน้าไปดูแลชายแดนมากกว่า คนเกือบหมื่นคนมีความทุกข์ คนเพียงคนเดียวมีความสุข" นั้น 

>>> นายวิญญัติ ระบุว่า ต้องยึดหลักอย่างหนึ่งว่า การที่บุคคลหนึ่งจะออกมามอบตัวหรือไม่ เป็นกระบวนการยุติธรรมปกติทั่วไป ไม่ใช่มีผู้ต้องหารายนี้รายเดียวที่จะไม่มอบตัว มีอีกหลายรายเป็นหมื่นเป็นแสนถ้าเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา เพราะอาจจะด้วยเหตุผลเรื่องการกลัวความผิด ไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม หรือไม่พร้อมที่จะมอบตัว ในเมื่อรัฐมีหมายจับก็จับไป รอเวลา อายุความก็ยังมี 

เป็นการตัดสินโดยศาลเตี้ยหรือไม่???
>>> ถามว่าในสิ่งที่ต้องใช้มาตรการจำเป็นเร่งด่วน ใช้อำนาจพิเศษแบบนี้ในการมาล้อมแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน โดยเฉพาะประชาชนของตนเองภายใต้การปกครอง มันไม่ถูก มันเป็นการกระทำที่เกินขอบเขต ฉะนั้นการพูดว่าให้มามอบตัวเพราะคนคนเดียวทำให้คนอื่นเดือดร้อน เป็นตรรกะที่ผิดเพี้ยน

>>> " สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งข้อกล่าวหา และคดี มันเป็นแค่ขั้นต้นในการดำเนินการ แต่สิ่งที่ออกมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร การดำเนินการ การให้ข่าว ล้วนตอกย้ำว่า สิ่งที่พระธัมมชโย กระทำความผิดสามารถยึดทรัพย์ได้เลย เป็นการตัดสินโดยศาลเตี้ยหรือไม่ ทั้งที่กระบวนการยังไม่ดำเนินการถึงไหนเลย และต้องยึดหลักว่าท่านยังเป็นผู้บริสุทธิ์ และยังมีกระบวนการยุติธรรมปกติดำเนินการได้ ไม่ต้องใช้อำนาจพิเศษแบบนี้ " นายวิญญัติ กล่าว


ขอบคุณข้อมูล: http://www.komkhao.com/content/10174
เคลียร์ชัดๆ กรณีที่รัฐใช้กฎหมาย ม.116 กับพระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวังโส โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี เคลียร์ชัดๆ กรณีที่รัฐใช้กฎหมาย ม.116 กับพระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวังโส โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี Reviewed by Mali_Smile1978 on 01:46 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.